เรื่องคว้าคิวเก่งนี่ต้องยกให้ “เลยดูดี สตูดิโอ” หลังจากทีได้ร่วมงานกับศิลปินเกาหลีมากมาย ครั้งนี้นับว่าเป็นการเซอร์ไพรส์แฟนๆ K-POP อีกครั้ง เมื่อศิลปินสุดฮอตตลอดกาลอย่าง ‘ทงเฮ’ จากวง Super Junior ตอบรับมาเป็นส่วนหนึ่งในโปรเจ็กต์ยักษ์ร่วมกับประเทศสหรัฐอเมริกา ในฐานะนักแสดงนำชายในหนึ่งตอนของซีรี่ส์โปรเจ็กต์ และถือเป็นผลงานเดี่ยวครั้งแรกในฐานะนักแสดงนำอย่างเต็มตัว โดยได้เคลียร์คิวบินตรงมาเปิดกล้องถ่ายทำเมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยได้เปิดใจให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเมื่อวันอังคารที่ 29 มกราคม 2562 ที่โรงแรม AnantaraSathorn Bangkok
ทงเฮ : สวัสดีครับ ผมชื่อทงเฮครับ (ภาษาไทย) ช่วงนี้อย่างที่ทุกท่านทราบนะครับ ได้มีโอกาสมาประเทศไทยบ่อยมากเลย วันนี้ก็มีความสุขมากๆ เหมือนกันนะครับที่ได้มีโอกาสในครั้งนี้
Q : เลยดูดี สตูดิโอ ชักชวนศิลปินเกาหลีมาแสดงละครไทยอย่างต่อเนื่อง ทำไมครั้งนี้ ทงเฮ ถึงได้มีโอกาสมาร่วมงานในโปรเจ็กต์นี้กับทางเลยดูดี?
เอ๋ ศุภกร : จริงๆ ก่อนหน้านี้ทาง ‘เลยดูดี’ ‘SM True’ และก็ ‘SM Entertainment’ ที่เกาหลีเราก็เคยมีโปรเจ็กต์ร่วมกันมาบ้างแล้ว พอมาโปรเจ็กต์นี้ทางเลยดูดีได้มีโอกาสได้ร่วมงานกับทางสหรัฐอเมริกา เซ็ตโปรเจ็กต์นี้ขึ้นมาก็เลยได้พูดคุยกับทาง ‘SM True’ และก็ ‘SM Entertainment’ ก็เลยปรึกษากันว่าจะสามารถหาศิลปินของทางโน้นมาร่วมได้มั้ย สำหรับคอนเซ็ปต์นั้นเราก็อยากได้ศิลปินจากทางหลายๆ ประเทศอยู่แล้ว ทาง SM เกาหลีก็เลยเสนอ ‘คุณพี่ทงเฮ’ นี่แหละเข้ามา (555) โอป้านี่แหละ ก็เลยได้ทำการพูดคุยกัน
Q : แง้มให้ฟังหน่อยว่าเป็นโปรเจ็กต์เกี่ยวกับอะไร
เอ๋ ศุภกร : โปรเจ็กต์นี่มันเกิดจากการพูดคุยกับทางอเมริกา ว่าเราอยากจะทำโปรเจ็กต์อันนี้ขึ้นมา ด้วยสเกลของโปรเจ็กต์ก็คือเอาศิลปินจากเอเชียจากทุกๆ ประเทศมาร่วมอยู่ในซีรี่ส์นี้ ซึ่งคอนเซ็ปต์ของซีรี่ส์นี้ก็คือเป็นซีรี่ส์ ‘ลึกลับ’ ซึ่งความลึกลับนี้มันก็จะมีอยู่หลายประเภทข้างในนั้น ในความลึกลับจะมีสิ่งนึงที่ทางอเมริกาค่อนข้างสนใจในประเทศไทย คือประเทศไทยจะมีวัตถุดิบหลายอย่างที่เรียกว่าลึกลับ ไม่ว่าจะเป็นพิธีกรรมบางอย่าง, การไหว้ผี, พญานาค ฯลฯ คือเราจะมีอะไรเยอะแยะมากที่มีทั้งความแฟนตาซี ทางอเมริกาเลยมองว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจถ้าเกิดว่าเอาศิลปินจากหลายๆ ประเทศในเอเชียมาร่วมผจญภัยในประเทศไทย นี่คือภาพรวมก็เลยเกิดเป็นกลไกของโปรเจ็กต์นี้ขึ้นมา เป็นโปรเจ็กต์ที่เรียกว่าใหม่มากในแง่ของการที่จะจับมือกันในหลายประเทศขนาดนี้
Q : ทำไมพี่เอ๋ถึงเลือกทงเฮมาร่วมในโปรเจ็กต์นี้
เอ๋ ศุภกร : ก็…ก็หล่อครับ (ทงเฮเธอเขินมากค่ะ) ก็คิดง่ายๆ นะ ถ้าเราเอาศิลปินเกาหลีมา เอาคนไม่หล่อมาอาจจะหาไม่เจอนะครับเพราะเกาหลีเขาจะหล่อกันเยอะ ที่นี้ก็เกิดกลไกการพูดคุย ซึ่งจริงๆ แล้วในการพูดคุย ทุกคนที่ผมเคยพูดคุยมาเนี่ย คุณทงเฮจะมีสิ่งนึงที่ผมรู้สึกประทับใจ คือ ถ้าคนที่เป็นแฟนคลับแล้วมองไปในแววตาเขา คุณจะรู้สึกทันทีว่าเขามีอะไรบางอย่างที่ซ่อนอยู่ มันเหมือนกับว่าเวลาที่เขายิ้ม เขาก็จะเหมือนมีความเศร้าบางอย่างที่ซ่อนอยู่ เวลาเขาเศร้า แววตาเขาก็จะมีเหมือนมีความขี้เล่นในตัวเอง ฉะนั้นมันจะมีอะไรที่เหมือนเลเยอร์ในการเล่น อันนี้เป็นเหตุผลหลักเลยนะที่ประทับใจในตัวเขาตอนที่เจอกัน ตอนที่สัมภาษณ์กันก่อนเริ่มโปรเจ็กต์
Q : นับว่าเป็นการลองมาจับงานแสดงเต็มตัวครั้งแรกในประเทศไทย รู้สึกยังไงบ้าง
ทงเฮ : ตอนนี้ผมมีความสุขมากครับ เพราะว่าเคยใฝ่ฝันมาโดยตลอดว่าอยากจะมีโอกาสได้ถ่ายทำในประเทศไทย ตอนนี้มันรู้สึกว่าฝันเป็นจริงก็เลยรู้สึกมีความสุขมากยิ่งขึ้นเพราะว่าได้ร่วมงานกับผู้กำกับที่หล่อกว่าผมซะอีกนะครับ (หัวเราะ)
เอ๋ ศุภกร : ปฏิเสธไม่ได้ครับ (หัวเราะ)
ทงเฮ : พี่เอ๋หล่อที่สุดอันดับ 1 ในประเทศไทย ส่วนผมเป็นอันดับ 2 ถ้าอยู่ในประเทศไทยนะครับ (หัวเราะ)
เอ๋ ศุภกร : แสดงว่าจะอยู่ในประเทศไทยไม่นาน (หัวเราะ)
ทงเฮ : ผมก็เลยต้องรีบกลับเกาหลีภายในอาทิตย์นี้ไงครับ (หัวเราะ)
Q : อยากให้คุณทงเฮพูดถึงการเตรียมตัวสำหรับโปรเจ็กต์ในครั้งนี้ว่า ได้มีการเตรียมตัวอย่างไรบ้าง (เช่น ฝึกภาษาไทย, ฝึกการแสดงฯลฯ)
ทงเฮ : ตั้งแต่ได้บทมาผมก็ได้อ่านและก็รู้สึกอินไปกับบทเป็นอย่างมาก บอกได้เลยว่าสนุกมาก ผมชอบมากเลยครับ พอได้อินไปกับบทก็เลยรู้สึกว่ามันเป็นเสน่ห์ที่ทำให้ผมรู้สึกตั้งใจซ้อม ส่วนการเตรียมตัวนั้น ระหว่างที่ผมมีงานในต่างประเทศหรือทุกครั้งที่ผมเดินทางผมก็จะติดบทไปด้วย หรือจะส่งเมล์ไปถามบ้างว่าส่วนนี้ต้องอะไรยังไง ถ้ามีคำถามก็จะถามเรื่อยๆ เพื่อจะได้อัพเดตเข้าใจบทมากขึ้น อย่างเมื่อวานนี้ได้มีโอกาสซ้อมกับพี่เอ๋แล้วด้วยก็เลยได้รู้ว่าเขาตั้งใจเตรียมงานเยอะมากเลย
Q : ชอบอะไรในโปรเจ็กต์นี้ถึงได้ตกลงมาร่วมงานด้วย
ทงเฮ : สิ่งแรกเลยก็อย่างที่บอกนะครับ ผมชอบบทมากๆ เลย พออ่านดูแล้วมันทำให้อินกับบทมากๆ แต่ที่สำคัญที่สุดคือตอนไปฟิตติ้ง พอทราบว่าเป็นผลงานที่ได้ถ่ายทำในประเทศไทยปุ๊บ พอได้ยินคำว่า ‘ประเทศไทย’ คือไม่มีคำว่าลังเลเลย ผมอยากทำมากๆ แล้วก็รับเลยครับ และผมก็รู้สึกว่ามันเป็นโอกาสดีมากๆ เพราะทุกคนได้รู้จักผมในฐานะทงเฮ Super Junior มาก่อน แต่ครั้งนี้น่าจะเป็นโอกาสให้ทุกคนได้เห็นอีกมุมในฐานะนักแสดงด้วย
Q : ได้ข่าวว่าเป็นโปรเจ็กต์ที่ได้ร่วมงานกับทางประเทศสหรัฐอเมริกาด้วย กดดันไหม
ทงเฮ : ปกติแล้วผมไม่ได้เป็นคนที่เครียดง่ายอะไรเลย แต่ครั้งนี้พอได้อ่านบทและตัดสินใจว่าจะได้ร่วมงานกับทางโน้นก็รู้สึกกดดันมาก ถึงขั้นว่าทานข้าวก็ไม่ค่อยได้ รู้สึกว่ามันปวดท้องยังไงก็ไม่รู้ นอนก็ไม่ค่อยหลับ แต่ผมเชื่อว่าผมจะทำได้ดีเพราะผมเตรียมตัวมาสักพักนึงแล้ว ตั้งใจทำน่ะครับ เมื่อวานที่ไปทานข้าวด้วยกันกับพี่เอ๋ คือทานข้าวอร่อยมาก พูดคุยกันสนุกมาก แต่รู้มั้ยในใจผมคิดว่า ‘นี่เรายังมานั่งทานข้าวอยู่ได้เหรอ ต้องกลับไปอ่านบทหรือเปล่า เรามาอยู่อย่างนี้ได้เหรอ’ คือในสมองเต็มไปด้วยบท เหมือนเราต้องกลับไปซ้อมหรือเปล่า
เอ๋ ศุภกร : มิน่าเมื่อวานไม่ค่อยกินข้าว (หัวเราะ) ชวนกินก็นั่งนิ่งๆ
ทงเฮ : ผมเพิ่งเจอตัวเองแบบใหม่คือ ปกติผมจะชอบออกกำลังกาย พอออกกำลังกายเสร็จก็จะทานเยอะมาก เมื่อวานนี้คือไม่ใช่ผมเลย รู้สึกว่าทุกคนในห้องทานอาหารนั้นทุกคนสนุกสนานกันมาก แต่มีผมคนเดียวที่คิดเรื่องบทอยู่ (หัวเราะ)
เอ๋ ศุภกร : เห็นแล้วล่ะ เมื่อวานกินข้าวถือบทไปด้วย
ทงเฮ : ผมพยายามที่จะเป็นหนึ่งเดียวกับบทไปเลย
เอ๋ ศุภกร : ด้วยการถือตลอดเวลาใช่มั้ย (หัวเราะ)
ทงเฮ : เมื่อวานตอนซ้อม ผมอยากขอบคุณพี่เอ๋มากๆ พี่สอนละเอียดมาก บอกดีเทล อธิบายทุกสิ่งอย่างทำให้ผมเข้าใจมากขึ้น ทำให้รู้สึกว่าพี่เอ๋เป็นผู้กำกับที่ดีมากๆ เราจะมีโอกาสเจอผู้กำกับที่ดีแบบนี้อีกหรือเปล่าไม่รู้ มันทำให้ผมคิดว่าพี่เอ๋เป็นพระเอกไปเลยดีมั้ย พี่เอ๋แสดงเองเลยดีกว่า
เอ๋ ศุภกร : มันไม่มีคนกำกับไง (หัวเราะ)
Q : อยากจะแนะนำสมาชิกซูเปอร์จูเนียร์คนไหนให้ลองมาแสดงหรือมีผลงานการแสดงในประเทศไทยไหมเพราะอะไร
ทงเฮ : ผมอยากถามพี่เอ๋มากกว่าว่าพี่เอ๋อยากร่วมงานกับคนไหน
เอ๋ ศุภกร : มันจะมีอยู่คนนึงที่เป็นคู่จิ้นกับเขาใช่มั้ย ผมจำได้ว่ามีอยู่คนนึงอยากเจอคนนั้น
ทงเฮ : ครับ เพื่อนคนนั้นพูดภาษาไทยเก่งมาก
เอ๋ ศุภกร : โอเค ได้แต้มๆ
ทงเฮ : จะบอกว่าเพื่อนคนนั้น ภาษาไทยที่เขาพูดชัดที่สุดคือ ‘จักจี้’
เอ๋ ศุภกร : จริงเหรอ
ทงเฮ : จริงครับ
เอ๋ ศุภกร : ทงเฮพูดได้มั้ย
ทงเฮ : ‘จักกะจี้ จักกะจี้’ ‘คิดถึงจังเลย’ ‘ผมเซ็กซี่มั้ย’
Q : ทำงานในวงการมาหลายอย่างมาก ถึงวันนี้อยากให้ผู้คนมองและจดจำ ‘ทงเฮ’ ในแบบไหน/แง่มุมไหน
ทงเฮ : ยากมากเลยคำถามนี้ พอได้คำถามแบบนี้ผมก็ขอเขินนะ แต่ก็ขออนุญาตพูดออกมาจากใจผมเลยนะครับ คือผมอยากเป็นความฝันของคนใดคนนึง คือความฝันอันนั้นอาจจะไม่ได้เป็นความฝันที่ยิ่งใหญ่มากๆ แต่ก็ไม่เป็นไร แค่อยากเป็นศิลปินหรือนักแสดงหรืออะไรก็ได้ที่เป็นแบบคนที่ให้แรงบันดาลใจหรือความฝันของคนนึงได้ คือพอพูดว่าอยากเป็นความฝันของคนใดคนนึง ผมก็ต้องแสดงให้เป็นตัวอย่างที่ดี ผมจะไม่หยุดในการเรียนรู้หรือค้นพบตัวเองในด้านการแสดงหรือด้านดนตรีหรือเพลงอะไรอย่างนี้
Q : นอกจากโปรเจ็กต์ละครเรื่องนี้แล้ว ในปีนี้ทงเฮจะมีผลงานหรือกิจกรรมอะไรในเมืองไทยอีกบ้าง (ทั้งงานเดี่ยวและงานกับ Super Junior)
ทงเฮ : ผมน่าจะต้องมีผลงานครั้งที่ 2 กับพี่เอ๋หรือเปล่า
เอ๋ ศุภกร : ก็อยู่ที่วันถ่ายนี่แหละ (หัวเราะ) ว่าจะทำให้ถ่ายนานไปมั้ย
ทงเฮ : ผมจะตั้งใจถ่ายทำผลงานนี้ให้ดีก่อน ถ้าในอนาคตมีโอกาสที่ดีแบบนี้อีกก็ขอบคุณนะครับ รู้สึกดีมากๆ ถ้าได้มี และสำหรับผมกับซูเปอร์จูเนียร์ก็แน่นอนอยู่แล้วที่พวกเราชอบกลับมาประเทศไทยและรักประเทศไทยมากๆ จะเป็นงานอะไรก็ได้ที่มีในประเทศไทย ก็หวังว่าจะได้มีโอกาสกลับมาหาทุกคนในเร็วๆ นี้
Q : มาครั้งนี้ได้เตรียมภาษาไทยมาฝากแฟนๆ ไหม อยากให้ลองโชว์ให้ดูหน่อย
ทงเฮ : แน่นอนครับ (ภาษาไทย) (ควักโพยออกมา) ผมรักประเทศไทยมากๆ ภาษาไทยผมเรียนตลอดเลย
เอ๋ ศุภกร : “ผู้กำกับหล่อมาก”
ทงเฮ : “ผู้กำกับหล่อมาก” (พอได้รู้ความหมายเธอก็หัวเราะแล้วบอกว่า) ถูกต้อง อันนั้นถูกต้อง ผมก็เตรียมมานะครับ (อ่านโพย) “ดีใจมากครับ ที่ได้มาไทย ที่ประเทศไทย ติดตามด้วยนะครับ” (ภาษไทยมีติดขัดเล็กน้อย แต่ใจความประมาณนี้) เข้าใจมั้ยครับ แต่สีหน้าทุกคนชัดมากนะครับว่าไม่เข้าใจ (หัวเราะ) คนไหนที่วันนี้ไม่เข้าใจไปทำการบ้านนะครับ เจอกันคราวหน้ามาบอกด้วยนะครับว่า ภาษาไทยที่ผมพูดไปนั้นคือพูดว่าอะไรบ้าง
Q : ฝากให้แฟนๆ ติดตามผลงานชิ้นนี้
ทงเฮ : รู้สึกเป็นเกียรติมากๆ ครับที่ผมได้มีโอกาสนี้ ได้มาเมืองไทย ได้ถ่ายทำในประเทศไทย ได้มีโอกาสโชว์มุมใหม่ๆ ของตัวผมเองด้วย ผมก็รู้สึกขอบคุณมากๆ เลย และก็ขอบคุณพี่ๆ สื่อมวลชนทุกคนที่มาสัมภาษณ์ผมในวันนี้ ผมจะตั้งใจถ่ายทำอย่างที่เตรียมงานกันไว้กับทางพี่เอ๋ ผมจะตั้งใจมากๆ หวังว่าทุกคนจะติดตามและก็รักผลงานชิ้นนี้ด้วยนะครับ
Q : ให้พี่เอ๋ ผู้กำกับของเรื่องนี้ ฝากให้ผู้ชมรอติดตามความน่าสนใจของโปรเจ็กต์นี้
เอ๋ ศุภกร : อยากฝากให้ติดตามผลงานชิ้นนี้นะครับ โปรเจ็กต์นี้มันไม่ใช่แค่ซีรี่ส์ธรรมดา คือโอเคมันก็เป็นซีรี่ส์แหละ แต่ความตั้งใจของโปรเจ็กต์นี้มันเกิดจาก คือเหมือนเราเอาความฝันของศิลปินแต่ละประเทศมารวมอยู่ในประเทศไทย ถ่ายทำในประเทศไทย เรื่องราวที่ถ่ายทอดก็มีความเป็นประเทศของเราไม่ว่าจะเป็นฉากหลัง, บรรยากาศ, จิตวิญญาณของเราปะปนอยู่ในซีรี่ส์เรื่องนี้ด้วยโดยที่มีศิลปินจากต่างประเทศมาเป็นส่วนนึง ขณะที่เราถ่ายทำแต่ละคนๆ สิ่งที่เราได้อย่างนึงก็คือมิตรภาพ อย่างที่เจอคุณทงเฮเพียงไม่กี่ครั้งแต่คือเราสัมผัสได้ว่าเราได้มิตรภาพจากเขา เพราะฉะนั้นผมเชื่อว่า นอกจากความสนุกของซีรี่ส์ที่คุณจะได้รับแล้วก็คือ คุณจะได้ความอบอุ่นของความเป็นเอเชียด้วยกันที่มาร่วมกันทำโปรเจ็กต์นี้
ทงเฮ : ขอบคุณที่มาวันนี้นะครับ กลับบ้านดีๆ นะครับ ดูแลตัวเอง รักษาสุขภาพด้วย แล้วเจอกันนะนะครับ
เอ๋ ศุภกร :“รักนะจุ๊บๆ” (พี่เอ๋บอกให้ทงเฮบอก)
ทงเฮ : “รักนะจุ๊บๆ”
ติดตามอัพเดทข่าวสารของทงเฮ รวมไปถึงผลงานอื่นๆ ได้ทางช่องทางต่างๆ ของ “เลยดูดี สตูดิโอ” Facebook/Instagram/Twitter @leaydodee